Welcome to MartFury Online Shopping Store!
Dec 17, 2024 / By Worachet Saengprab / in Thailand-China : News and Activities
ตามกฎหมายสมเด็จพระสังฆราช มีฐานะทรงเป็นประมุขแห่งคณะสงฆ์ทั้งปวง ทรงมีอำนาจบัญชาการคณะสงฆ์โดยพระองค์เองได้ และในฐานะประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ย่อมมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารคณะสงฆ์และกิจการพระศาสนาทั้งหมด
นับแต่พระมหากษัตริย์ ทรงมีพระกระแสรับสั่งให้สำนักพระราชวังจัดพิธีการโดยกำหนดวัน เวลา และรายการตามพระราชประเพณีขึ้น ท่ามกลางสังฆมณฑล ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จากนั้นประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา และลั่นระฆังทุกวัดทั่วประเทศในช่วงเวลาที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถวายน้ำแด่สมเด็จพระสังฆราชด้วยพระมหาสังข์ทักษิณาวรรต (หอยสังข์ที่เวียนไปทางด้านขวา ตามคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูถือเป็นสิ่งมงคล)
และถวายพระสุพรรณบัฏ คือ “ลานทอง” มีลักษณะเป็นแผ่นทองคำบาง ๆ ทำตามอย่างใบลานที่ใช้ในการจดจารหนังสือและพระธรรมคัมภีร์ โดยนำทองคำไปแผ่ให้มีรูปร่างและความยาวเท่า ๆ กับ ใบลานและจารตัวอักษรเป็นพระนามเต็ม ชื่อพระอารามที่สถิต และข้อความอีกเล็กน้อย พร้อมถวายพระตราตำแหน่ง พัดยศ และเครื่องประกอบสมณศักดิ์ ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติตามโบราณราชประเพณี
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นวัดประจำรัชกาลเมื่อ พ.ศ. 2412 มีพิธีก่อพระฤกษ์ เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ.2412
มีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับสถาปัตยกรรมตะวันตก คือ ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในออกแบบตกแต่งอย่างตะวันตก และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม หมายถึง วัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง และมีมหาสีมาอันเป็นเสาศิลาจำหลักยอดเป็นรูปเสมาธรรมจักร 8 เสา ตั้งเป็นสีมาที่กำแพง 8 ทิศ “ราชบพิธ” หมายถึง พระอารามที่พระเจ้าแผ่นดินทรงสร้าง บพิธ คำนี้มาจากภาษาบาลีคือ ปวิธะ ที่แปลว่าสร้าง ส่วน “สถิตมหาสีมาราม” หมายถึง พระอารามซึ่งมีสีมากว้างใหญ่ เป็นมหาสีมาล้อมรอบอาณาเขตของวัด
ตั้งอยู่บริเวณถนนเฟื่องนคร แขวง วัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร นับเป็นพระอารามหลวงสุดท้าย ที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราชประเพณีที่มีการสร้างวัดประจำรัชกาล
วัดประจำพระมหากษัตริย์ แห่งกรุงรัตน์โกสินทร์ ประกอบด้วย รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 9
วัดที่ประทับสังฆราช ถึง 3 พระองค์
1) พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
ทรงดำรงตำแหน่ง ระหว่าง พ.ศ 2444 ถึง พ.ศ 2480
2) สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ์ (วาสน์ วาสโน)
ทรงดำรงตำแหน่ง ระหว่าง พ.ศ 2489 ถึง 2531
ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ครั้งดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอสราธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2521
3) สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ทรงดำรงตำแหน่ง ระหว่าง พ.ศ 2551 ถึง ปัจจุบัน
ทรงเป็นปฐมสกลมหาสังฆปริณายกในแผ่นดินรัชกาลที่ 10
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 10 ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศ “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ”
เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ณ วัดพุทธรังษี สแตนมอร์ (wat Buddharangsee Stanmore)
นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ เครือรัฐออสเตรเลีย
ในภาพ : องค์ที่ 3 จากขวา คือ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร)
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ขณะทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ “พระปริยัติกวี”
แหล่งอ้างอิง :
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
(National Office of Buddhism)
https://www.onab.go.th
ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net
Dec 19, 2024 by Worachet Saengprab
Dec 18, 2024 by Worachet Saengprab